ภาพชัดยิงสู้! ทนายเกิดผล ชี้ปม เจ้าของร้าน ยิงโจรปล้นทอง เชื่อตายฟรี

ภาพชัดยิงสู้! ทนายเกิดผล ยกข้อ กม. วิเคราะห์ปม เจ้าของร้าน ยิง โจรปล้นทอง เชื่อตายฟรี หลังจากตอนแรกคิดว่า น่าจะเป็นการป้องกันตัว เกินกว่าเหตุ
กรณี 4 คนร้าย ถือปืนบุก ปล้นร้านทองเยาวราช ในพื้นที่ ถนนท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัด ตาก ตรงข้ามกับโรงเรียนตากพิทยาคม ก่อนถูกเจ้าของร้านยิงสวนออกมา ทำให้ คนร้าย 1 รายบาดเจ็บอย่างหนัก และก็โดนจับกุมได้ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย หลบหนีไปได้นั้น
ถัดมามีการโต้แย้งถึงประเด็น ด้านข้อกำหนดกฎหมายว่า การยิงปืนเข้าใส่ กลุ่มคนร้าย โดยเจ้าของร้าน ถือเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุหรือเปล่า
โดย ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง ให้ความเห็น ด้านข้อกำหนดกฎหมายว่า ถ้าหากคนร้ายอยู่ระหว่างที่วิ่งหนี ในช่วงเวลาที่เรายิงสวนออกไปนั้น เมื่อคนร้ายวิ่งหนีแปลว่าภัยหมดแล้ว ถ้าหากเราอยู่เฉยๆ ไม่มีภัยมาถึงเราแล้ว การที่จะไปยิงซ้ำ ตามล่าคนร้าย ที่ยังไม่ได้เอาทองไป (ถ้าหากเอาไป ถือว่าเป็นการป้องกันเอาทรัพย์สิน ของเรากลับคืนมาได้) แล้วเรายิงซ้ำกระสุน เข้าด้านหลัง มีคำพิพากษาศาลฎีกา อยู่หลายคดี ที่กล่าวว่าเป็นการป้องกันตัว เกินกว่าเหตุ ด้วยเหตุว่าถ้าหากภัยหมดแล้ว เราจะป้องกันตัวอย่างนั้นไม่ได้ และก็เสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี ว่าป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ
ขณะเดียวกัน ทนายเกิดผล แก้วเกิด อีกหนึ่งทนายความชื่อดัง ให้ความเห็น ผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า #ปล้นร้านทอง คนร้ายหนีไปแล้ว ถือว่า ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายสิ้นไปแล้ว เจ้าของร้านทอง ยิงคนร้ายตาย ตามกฎหมาย จะต้องรับผิดหรือเปล่า เพราะเหตุใด ⁉
การยิงคนร้ายที่กำลังหนี โดยคนร้ายไม่ได้ต่อสู้ อ้างป้องกันไม่ได้ ด้วยเหตุว่าเหตุ ภยันตราย อันละเมิดต่อกฎหมาย ได้ระงับสิ้นไปแล้ว แม้แต่อ้าง ป้องกันเกินกว่าเหตุ ก็ไม่อาจอ้างได้
โดยยกคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5638/2533
เมื่อวิเคราะห์ลักษณะบาดแผลที่ #โจทก์ร่วมถูกยิงด้านหลัง #แสดงว่าโจทก์ร่วมถูกยิงขณะกำลังวิ่งหนีออกจากบริเวณบ้านของนายมะพลับ การที่โจทก์ร่วมเข้าไปในบริเวณบ้านของนายมะพลับในเวลากลางคืน โดยไม่มีเหตุสมควร อันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย #แต่เมื่อจำเลยมาพบโจทก์ร่วมก็ได้วิ่งหนีออกมาเหตุละเมิดดังกล่าวจึงหมดไปแล้ว
ด้วยเหตุว่าภยันตรายดังกล่าวพ้นไปแล้ว จำเลยน่าจะใช้วิธีอื่น เพื่อจับกุมตัวโจทก์ร่วม มาดำเนินคดีเท่านั้น การที่จำเลย ใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมด้านหลัง ในช่วงเวลาที่โจทก์ร่วมกำลังวิ่งหนี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำ เพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 การที่จำเลยใช้อาวุธปืน ยิงโจทก์ร่วม จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นว่า ถ้าหากกระสุนปืนไปถูกโจทก์ร่วมแล้ว โจทก์ร่วมย่อมได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เพราะเป็นอาวุธที่ร้ายแรง
เมื่อการกระทำนั้น ไม่บรรลุผลด้วยเหตุว่ากระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญและแพทย์ทำการรักษาโจทก์ร่วมได้ทัน โจทก์ร่วมจึงไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , 80 และ ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลย หนึ่งในสามนั้นเป็นผลดีแก่จำเลยอยู่แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ข่าวปล่นร้านทองล่าสุด อย่างไรก็ตามถัดมา ทนายรัชพล ศิริสาคร โพสต์ข้อความหลังจากได้ดูภาพเหตุการณ์ โดยเป็นภาพที่คนร้ายกำลังเล็งปืน มาทางเจ้าของร้านทอง โดยกล่าวว่า ถ้าหากมีภาพชัดขนาดนี้ ว่า คนร้ายบางคน ใช้อาวุธยิงต่อสู้เจ้าของร้านทอง ถือว่า ภยันตรายอันละเมิด ต่อกฎหมายยังมีอยู่ เจ้าของร้านยิงป้องกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุครับ คนร้ายตายฟรี ครับ
รายละเอียดเหตุการณ์ โจรปล้นทอง เจ้าของใจเด็ดคว้าลูกซองยิงโคม่า ตามรวบได้ 1
สุดอุกอาจ! 4 คนร้ายพร้อมปืน บุกปล้นร้านทอง ยิงประตูแตก ใช้เครื่องเจียรตัดเหล็ก เจ้าของใจเด็ดคว้าลูกซองยิง โจรปล้นทอง โคม่า ตร.ตามรวบได้ 1
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 เดือนธันวาคม65 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีการยิงกัน ที่หน้าร้านทอง หน้าโรงเรียนตากพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดตาก แล้วต่อจากนั้น พ.ต.อ.ไพฑูรย์ สุขุมวัฒนะ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก, พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ วงษ์บุรี รอง ผบก.ภ.จว.ตาก, พ.ต.อ.สิทธิชัย ยิ้มยวน ผกก.สภ.เมืองตาก นำกำลังเจ้าหน้าที่และก็ชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านห้างทองเยาวราช ถนนท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัด ตาก ตรงข้ามกับโรงเรียนตากพิทยาคม พร้อมประสานหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพราะเหตุว่าคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บอย่างหนัก 1 ราย
จากการตรวจสอบพบว่ากระจกด้านหน้าร้าน แตกละเอียด มีคนร้ายบาดเจ็บ ถูกยิงบาดเจ็บนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาว ถูกเจ้าของร้าน ยิงเข้าที่บริเวณหน้าท้อง เลือดไหลนองเต็มพื้นถนน โดยมี นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน ยืนรอให้การ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ข่าวปล่นร้านทองตาก จากการตรวจสอบภาพที่เอามาจากกล้องวงจรปิดพบว่า มีคนร้าย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมเสื้อแขนยาว เสื้อแจ็คเก็ตคลุม ใส่หน้ากากอนามัยและก็ใส่หมวกปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาหน้าร้าน พร้อมในมือ ถือปืนเก็บเสียง ไม่ทราบขนาด แล้วปืนยิงกระจก แตกกระจาย ก่อนใช้เท้าถีบประตูเข้ามา จากนั้นจึงใช้เครื่องเจียร พยายามตัดลูกกรงเหล็ก แต่เจ้าของร้าน ได้ใช้อาวุธปืนยิง จนคนร้ายวิ่งกระเจิง และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะที่ นายพิสิฐ พูดว่า ระหว่างเกิดเหตุ เมื่อคนร้ายเข้ามา ตนจึงบอกให้ภรรยาหลบ เข้าไปหลังร้าน แล้วตนจึงไปเอาปืนลูกซองออกมา เพื่อมายิงต่อสู้ ป้องกันตัว โดยยิงไป 1 นัด คนร้ายที่กำลังใช้เครื่องเจียร ตัดเหล็กลูกกรง ที่ใช้ป้องกันคนร้าย มาปล้นทอง เห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีออกจากร้าน ไปที่รถจักรยานยนต์ ตนก็เลยยิงตามไปอีก 4 นัด นัดสุดท้าย ถูกคนร้ายที่พยายามสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนี
ระหว่างนั้นคนร้ายที่เหลือ ก็ได้รีบหลบหนี โดยคนร้ายคนที่ 1 ขี่รถจักรยานยนต์ สวมเสื้อแขนยาวกันหนาวสีเขียว สวมกางเกงยีนส์ คนร้ายคนที่ 2 นั่งซ้อนท้ายรถ จักรยานยนต์สวมเสื้อแขนยาวสีดำ หลบหนีไปทางห้างบิ๊กซี และคนร้ายคนที่ 3 สวมเสื้อแขนยาวสีเขียว มีกระเป๋าสีดำสะพายติดตัว วิ่งหลบหนีไปทางสำนักงาน กศน. จังหวัดตาก
หลังรับแจ้งว่ามีเหตุปล้นร้านทอง พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.ตาก นำกำลังชุดสืบสวน ไปจับกุมตัวได้คนร้ายตามที่ ได้รับรายงานได้ 1 ราย ที่วิ่งไปตามทางหลบหนี แอบอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนอีก 2 คน เจ้าหน้าที่กำลังแกะรอยติดตาม อย่างกะชั้นชิด ขณะที่คนร้ายที่ถูกยิงอาการโคม่า เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล